ฉันไม่สามารถให้รีวิวสำหรับสินค้าที่เฉพาะเจาะจงจากร้านค้าออนไลน์ที่ไม่คุ้นเคยได้ (ร้าน “phli9iwl.th”) เนื่องจากฉันไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของร้านค้า, คุณภาพของสินค้าที่ขาย, หรือความคิดเห็นของผู้ซื้อรายอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ฉันสามารถให้ข้อมูลและคำแนะนำทั่วไปเกี่ยวกับเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กในช่วงวัยที่ระบุ และปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อ เพื่อให้คุณสามารถประเมินผลิตภัณฑ์ที่สนใจได้ด้วยตัวเอง

**ประเภทของเบาะนั่งนิรภัยที่เหมาะสมตามช่วงวัย:**

* **9 เดือน – 4 ปี (ประมาณ 9-18 กก.):** เด็กในช่วงวัยนี้ควรใช้เบาะนั่งนิรภัยแบบ Child Seat ที่หันหน้าไปทางด้านหลังของรถ (Rear-facing) นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตราบเท่าที่น้ำหนักและส่วนสูงของเด็กยังอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดของเบาะนั่งนั้นๆ เมื่อเด็กโตเกินเกณฑ์ที่กำหนด ก็สามารถเปลี่ยนไปใช้เบาะนั่งแบบหันหน้าไปทางด้านหน้ารถ (Forward-facing) ที่มีสายรัด 5 จุดได้

* **4 ปี – 12 ปี (ประมาณ 18-36 กก.):** เมื่อเด็กโตเกิน Child Seat แบบหันหน้าไปทางด้านหน้าแล้ว ควรเปลี่ยนไปใช้ Booster Seat ซึ่งมี 2 ประเภทหลัก คือ:
* **Booster Seat แบบมีพนักพิง (High-back Booster):** เหมาะสำหรับเด็กที่ยังต้องการการรองรับศีรษะและลำตัวด้านข้าง
* **Booster Seat แบบไม่มีพนักพิง (Backless Booster):** เหมาะสำหรับเด็กที่โตพอที่จะนั่งโดยใช้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ได้อย่างถูกต้อง โดยที่เข็มขัดพาดผ่านกระดูกไหปลาร้าและสะโพก ไม่พาดผ่านคอหรือท้อง

**ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อเบาะนั่งนิรภัย:**

* **มาตรฐานความปลอดภัย:** ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเบาะนั่งนิรภัยได้รับการรับรองตามมาตรฐานความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง เช่น ECE R44/04 หรือ i-Size (ECE R129) ซึ่งเป็นมาตรฐานของยุโรป หรือ FMVSS 213 ซึ่งเป็นมาตรฐานของสหรัฐอเมริกา มาตรฐานเหล่านี้บ่งบอกว่าเบาะนั่งได้ผ่านการทดสอบการชนและเป็นไปตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย
* **ความเหมาะสมกับช่วงวัยและน้ำหนัก/ส่วนสูงของเด็ก:** เลือกเบาะนั่งนิรภัยที่เหมาะสมกับช่วงวัย, น้ำหนัก, และส่วนสูงของเด็ก เพื่อให้มั่นใจว่าเด็กจะได้รับการปกป้องอย่างเหมาะสม
* **ระบบการติดตั้ง:** พิจารณาระบบการติดตั้งที่เบาะนั่งนิรภัยรองรับ โดยทั่วไปจะมี 2 ระบบหลัก คือ:
* **ISOFIX:** เป็นระบบการติดตั้งที่ง่ายและปลอดภัย โดยใช้จุดยึด ISOFIX ที่มีอยู่ในรถยนต์รุ่นใหม่ส่วนใหญ่
* **Belted:** เป็นระบบการติดตั้งที่ใช้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ในการยึดเบาะนั่ง เหมาะสำหรับรถยนต์รุ่นเก่าที่ไม่มีจุดยึด ISOFIX
* **ความสะดวกสบาย:** เลือกเบาะนั่งนิรภัยที่บุด้วยวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี และมีพนักพิงที่ปรับเอนได้ เพื่อให้เด็กนั่งได้อย่างสบายตลอดการเดินทาง
* **ความสะดวกในการใช้งาน:** พิจารณาเบาะนั่งนิรภัยที่ติดตั้งและปรับระดับได้ง่าย รวมถึงทำความสะอาดได้ง่าย
* **รีวิวจากผู้ใช้งานจริง:** ค้นหารีวิวจากผู้ใช้งานจริงเกี่ยวกับเบาะนั่งนิรภัยรุ่นที่คุณสนใจ เพื่อดูความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพ, ความปลอดภัย, และความสะดวกในการใช้งาน

**ข้อควรระวัง:**

* **อย่าซื้อเบาะนั่งนิรภัยมือสอง:** เบาะนั่งนิรภัยมือสองอาจมีร่องรอยการชนหรือความเสียหายที่มองไม่เห็น ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยในการใช้งาน
* **อ่านคู่มือการใช้งานอย่างละเอียด:** ก่อนติดตั้งและใช้งานเบาะนั่งนิรภัย ควรอ่านคู่มือการใช้งานอย่างละเอียด และปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตอย่างเคร่งครัด
* **ตรวจสอบความถูกต้องของการติดตั้ง:** หลังจากการติดตั้งเบาะนั่งนิรภัย ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเบาะนั่งได้รับการติดตั้งอย่างถูกต้องและมั่นคง

**คำแนะนำเพิ่มเติม:**

* **ลองติดตั้งเบาะนั่งนิรภัยในรถของคุณก่อนตัดสินใจซื้อ:** หากเป็นไปได้ ควรลองติดตั้งเบาะนั่งนิรภัยในรถของคุณก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าเบาะนั่งนั้นเหมาะสมกับรถของคุณ และสามารถติดตั้งได้อย่างถูกต้อง
* **ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ:** หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเลือกเบาะนั่งนิรภัยแบบใด ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยในรถยนต์สำหรับเด็ก เพื่อขอคำแนะนำ

หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อเบาะนั่งนิรภัยที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับลูกของคุณ!